JMART ปิดดีลเข้าลงทุน “สุกี้ ตี๋น้อย” สัดส่วน 30% ผนึก Ecosystem เสริมทัพธุรกิจอาหาร ปั้นรายได้ทะยานโต พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์
JMART ปั้นสตาร์ดวงใหม่ ประกาศลุยธุรกิจอาหาร เข้าลงทุนใน “บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป(BNN)” เจ้าของแบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ถือหุ้น 30% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท คาดดีลแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65 เชื่อมโยง Ecosystem นำเทคฯ เสริมศักยภาพการโตแบบก้าวกระโดดพร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 2 ปี
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) ได้มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนและลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” จำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด โดยเป็นการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 176,471 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ BNN จำนวน 176,470 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4/2565 นี้
ทั้งนี้ BNN เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ ภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ซึ่งปัจจุบันมีสาขา 42 สาขาในประเทศ โดยมีแผนธุรกิจในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มบริษัทเจมาร์ทในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี จะช่วยให้พันธมิตรทางการค้าBNN มีการเติบโตในด้านผลการดำเนินงานให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมช่วยดันการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด รวมถึงแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้านผลการดำเนินงานของ BNN ในปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 148 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 9.41% มีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 55.80% สะท้อนการเป็นบริษัทที่สร้างผลตอบแทนในระดับสูง และมีโอกาสในการเติบโตอีกมากในอนาคต
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นการเดินหน้าตามกลยุทธ์ Technology Investment Holding Company (T-IHC) บริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจร้านอาหารของ BNN เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีโอกาสในการเติบโตสูง มีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรม รวมไปถึง การต่อยอดพันธมิตรทางธุรกิจ และก่อให้เกิดการผนึกกำลัง Ecosystem ที่จะแข็งแรงขึ้นและมีพอร์ตธุรกิจกลุ่ม Food & Beverage เพิ่มเติม โดยมองว่า หลังจากผสานความร่วมมือ นำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ จะสนับสนุนให้ BNN มีความพร้อมในการขยายสาขาได้อย่างก้าวกระโดดรวมทั้ง การขยายธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่ และขยายสาขาในต่างจังหวัด และต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังเกิดเป็นความร่วมมือในด้านต่างๆ ภายในกลุ่มบริษัท อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางของบริษัท และการนำเอาเทคโนโลยีที่บริษัทมี เช่น เทคโนโลยีทางด้าน CRM และPromotion อันนำมาสู่การเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจประเภทค้าปลีกทั้งในกลุ่มอาหาร เทคโนโลยี และพลังงานทดแทน
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน JMART ยังคงมีการหาพันธมิตรในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอด Ecosystem ด้วยแนวคิดขับเคลื่อนธุรกิจด้วย “ใจ” ผลักดันในอนาคตเติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Business Model) ทะยานสู่เป้าหมายมูลค่ากิจการรวมกลุ่มบริษัทที่500,000 ล้านบาท ในปี 2567